W05

Accupunture

การฝังเข็มคืออะไร?
การฝังเข็มคือการที่แพทย์ปักเข็มไปยังบริเวณส่วนต่างๆของร่างกาย แล้วใช้มือหรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในการกระตุ้นเข็มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเข็ม ทิ้งไว้ประมาณ30-45นาที จุดประสงค์หลักในการฝังเข็ม คือ 1.กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลมปราณ 2.การปรับอวัยวะต่างๆให้เข้าสู่สภาวะสมดุล 3.เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน และคลายกล้ามเนื้อ

การฝังเข็มเราสามารถฝังเข็มส่วนไหนในร่างกายได้บ้าง?
การฝังเข็มสามารถฝังได้ทุกส่วนในร่างกายตั้งแต่บริเวณศรีษะจนถึงปลายเท้า เพราะในการฝังเข็มนั้นแพทย์จะฝังตามจุดต่างๆบนเส้นปราณ ซึ่งเส้นลมปราณจะกระจายอยู่ทุกส่วนบริเวณในร่างกาย โดยในการเลือกใช้จุดแพทย์เลือกจุดตามอาการที่คนไข้มีว่าเหมาะกับจุดไหน

การฝังเข็มในแต่ละส่วนของร่างกายช่วยอะไรได้บ้าง?
อย่างแรกแพทย์ต้องแบ่งกลุ่มอาการของคนไข้ก่อน คนไข้ในกลุ่มอาการความงาม ต้องการรักษาสิว ฝ้า หน้าใส แพทย์จะฝังบริเวณใบหน้าเพื่อให้เลือดมาเลี้ยงที่บริเวณใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่บริเวณใบหน้า และตามบริเวณแขนขาเพื่อปรับสมดุลเลือดลม คนไข้ในกลุ่มปรับสมดุลแพทย์สามารถฝังได้ตั้งแต่บริเวณศรีษะจนถึงปลายเท้าโดยแพทย์จะเลือกจุดที่เหมาะสมกับอาการที่คนไข้เป็น คนไข้ในกลุ่มที่ต้องการจะลดความอ้วนแพทย์จะฝังที่บริเวณหน้าท้อง และแขนขา เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และระบบเมตาบอริซึม คนไข้กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มอาการปวดเมื่อยแพทย์จะฝังตามจุดที่คนไข้มีอาการ พร้อมทั้งติดเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งและกระตุ้นให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณที่มีอาการ อาการปวดเมื่อยก็จะหายไป

การฝังเข็ม หลังจากฝังเข็มแล้วเห็นผลทันทีเลยไหม?
การฝังเข็มเป็นต้องใช้ระยะเวลาและความต่อเนื่องในการรักษา โดยในครั้งแรกคนไข้จะรู้สึกดีขึ้นทีละ10% ฝังไปเรื่อยๆ จนไปถึง100% แต่จะใช้เวลารักษานานแต่ไหนต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คนไข้เป็นว่าเป็นมานานรึยัง และเป็นหนักแต่ไหน

การฝังเจ็บไหม?
อาจจะมีเจ็บนิดๆเหมือนมดกัด แต่ไม่เจ็บเหมือนฉีดยา เพราะเข็มที่แพทย์ใช้นั้นมีความบางมากแค่0.25 มิล ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กมาก

หลังจากฝังเข็มไปแล้วเราควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
หลังจากฝังเข็มคนไข้ควรจะดื่มน้ำอุ่น และหลีกเลี่ยงการอาบน้ำโดยเฉพาะน้ำเย็นหลัง2ชม ที่ฝังเข็มไปแล้วถึงจะอาบได้ เพราะจะให้เลือดและลมปราณไหลเวียนไม่ติดขัด ในคนไข้บางหลายอาจจะมีอาหารอ่อนเพลีย หรือเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากฝังเข็มก็สามารถทานยาบรรเทาอาการปวดได้ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากคนไข้นอนหลับพักผ่อน และในการฝังเข็มนั้นคนไข้สามารถรักษาอย่างอื่นร่วมไปด้วยได้ เช่นการกายภาพบำบัด การทานยาที่แพทย์แผนบัจจุบันจ่ายให้

การฝังเข็มควรทำเป็นคอร์สต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
การฝังเข็มสามารถใช้รักษาตามจุดประสงค์ต่างๆได้ดังนี้
1. ความงาม
– หน้าใส
การฝังเข็มจะเป็นการกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยบริเวณใบหน้าให้มีการขยายตัวเล็กน้อยจะทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น เมื่อการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นการรับสารอาหารต่างๆของผิว เช่น ออกซิเจน การขับถ่ายของเสียของผิวจะดีขึ้นด้วย และช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวอีกด้วย โดยการฝังเข็มฝังบริเวณใบหน้า และลำตัวทิ้งไว้ 45 นาที
– สิว
ในทางการแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่าสิวเกิดจากการที่มีความร้อนสะสมภายในร่างกายมาก การฝังเข็มจึงเป็นการขับความร้อนออกจากร่างกาย เป็นการทำให้ร่างกายเข้าสู่สมดุลมากขึ้น สิวจะดูจางลง และหายจากไปหากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องควบคู่ไปด้วย อีกทั้งการฝังเข็มบริเวณใบหน้ายังเป็นการช่วยให้เลือดหมุนเวียนบริเวณใบหน้าได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงทำให้การรับออกซิเจน และขับถ่ายของเสียผิวได้ดีขึ้นจึงทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้นอีกด้วย และยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวอีกด้วย โดยการฝังเข็มฝังบริเวณใบหน้า และลำตัวทิ้งไว้ 45 นาที
– ฝ้า
ในทางการแพทย์แผนจีน ฝ้าเกิดได้หลากหลายสาเหตุ เช่น เกิดความร้อนสะสมภายในร่างกาย อารมณ์ที่ผิดปกติส่งผลกระทบให้ระบบไหลเวียนเส้นลมปราณติดขัด(การไหลเวียนของเลือดลมในร่างกาย)ส่งผลให้เลือดหมุนเวียนไม่ดี เมื่อเลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงบริเวณใบหน้าไม่ดีจึงทำให้เกิดฝ้าหมองคล้ำ ดังนั้นการฝังเข็มจึงเป็นการขับความร้อนออกจากร่างกาย ปรับสมดุลให้ร่างกายเข้าสู่สมดุลอีกทั้งการฝังเข็มบริเวณใบหน้ายังเป็นการช่วยให้เลือดหมุนเวียนบริเวณใบหน้าได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงทำให้การรับออกซิเจน และขับถ่ายของเสียผิวได้ดีขึ้นจึงทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้นอีกด้วย และยังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวอีกด้วย โดยการฝังเข็มฝังบริเวณใบหน้า และลำตัวทิ้งไว้ 45 นาที
2. ฝังเข็มกระชับสัดส่วน กระตุ้นการเผาผลาญ
การฝังเข็มจะช่วยปรับสมดุลต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต และกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ตับและไตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มอัตราเมตตาบอริซึมในร่างกาย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการฝังเข็มแพทย์จะทำการวินิจฉัยสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลและจะฝังตามจุดที่แพทย์เลือก ฝังทิ้งไว้ประมาณ 45นาที พร้อมใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าร่วมด้วย การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าร่วมจะช่วยละลายไขมันหน้าท้อง และลดขนาดรอบเอวด้วย
3. อาการปวดเมื่อยต่างๆ
– ออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรมเป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งซ้ำๆต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง จึงทำให้กล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งทำงานซ้ำๆ ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นหดเกร็งอยู่ตลอดเวลา ทำให้เส้นเลือดที่แทรกอยู่ในใยกล้ามเนื้อไม่สามารถนำเลือดเข้าไปในกล้ามเนื้อมัดนั้นได้ เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อขาดเลือด และเกิดเป็นพังพืดและเกิดอาการปวด และกล้ามเนื้ออ่อนแรงลง ในการฝังเข็มเป็นการเพิ่มการไหลเวียนเลือดลม ทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงบริเวณที่เป็นพังพืด ในการฝังเข็มมักจะเกิดอาการกระตุกร้าวไปที่ต่างๆ เกิดจากการที่พังผืดขาดออก ทำให้กล้ามเนื้อที่รัดพังพืดไว้ ดีดตัวออกทันที ทำให้กล้ามเนื้อกลับสู่สภาวะปกติ และกล้ามเนื้อจะเริ่มแข็งแรงขึ้นอาจจะใช้เวลา 3-5 วัน ถ้าเรื้อรังก็อาจจะใช้เวลานานกว่านั้น โดยการฝังเข็มจะฝังเข็มพร้อมใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าทิ้ง 30 นาที และครอบแก้วร่วมด้วยเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
– ปวดเข่า
อาการปวดเข่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เข่าเสื่อมที่มักพบในคนที่อายุมากขึ้น และเกิดจากใช้งานมากเกินไป หรือการใช้งานที่ผิดวิธี การฝังเข็มบริเวณเข่าจะกระตุ้นและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลดอาการอักเสบ ระงับความปวด และ การฝังเข็มบริเวณเข่าจะเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อเข่าลดการเสียดสีได้อีกด้วย โดยในการฝังเข็มจะฝังเข็มพร้อมติดเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าทิ้งไว้ 30 นาที
– ปวดเอว
อาการปวดเอวเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการใช้งาน เกิดจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโดยในคนไข้กลุ่มนี้จะมีอาการปวดร้าวลงขา และชาขาร่วมด้วย ในการฝังเข็มนั้นจะฝังบริเวณเอว และลำตัว เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดมาเลี้ยงบริเวณที่มีอาการปวด อาการปวดก็จะบรรเทาลง โดยในการฝังเข็มจะฝังเข็มพร้อมติดเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นจะครอบแก้วเพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
4. การปรับสมดุล
– นอนไม่หลับ
ในทางแพทย์แผนจีนนั้นจะมองร่างกายอย่างเป็นองค์รวม ระหว่างร่างกายเรากับอวัยวะการทำงานต่างภายในร่างกาย และร่างกายเรากับสภาวะแวดล้อมรอบตัว เช่น สภาพอากาศ สภาพสังคม ดังนั้นสาเหตุในการเกิดอาการนอนไม่หลับแพทย์แผนจีนจึงมองว่าเกิดจากสาเหตุได้หลากหลาย เช่นความเครียดสะสมเป็นเวลานานทำให้การทำงานของตับไตไม่สมดุลกันจึงเกิด เป็นความร้อนไปรบกวนหัวใจ ทำให้นอนไม่หลับ หรือเลือดลมไหลเวียนไม่ดี เลือดลมพร่องไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้เพียงพอจะเกิดอาการนอนหลับ ในการฝังเข็มนั้นแพทย์จะต้องทำการวินิจฉัยสภาพร่างกายของผู้ป่วยก่อนว่าเกิดสาเหตุใด แล้วจึงทำการฝังเข็มตามจุดต่างๆตามร่างกายเพื่อปรับสมดุลให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติ โดยจะฝังเข็มทิ้งไว้ 30-45นาที
– ภูมิแพ้
การเกิดภาวะภูมิแพ้ในทางแพทย์แผนจีนมองการ เกิดจากการที่คนไข้พลังงานพื้นฐานในร่างกายไม่เพียงพอที่จะไปปกป้องร่างกายเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาสู่ร่างกาย ในการฝังเข็มจึงเป็นการเพิ่มพลังงานพื้นฐานในร่างกายให้แข็งแรง และเป็นบำรุงอวัยวะต่างๆให้แข็งแรงเพื่อต่อสู่กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกาย โดยจะทำการฝังเข็มทิ้งไว้ 30-45 นาที

นอกเหนือจากการฝังเข็มแล้ว เรายังมีบริการครอบแก้ว
ครอบแก้วคืออะไร ครอบแก้วคือการที่เราทำให้แก้วเป็นสุญญากาศโดยใช้ไฟ ครอบไปตามแนวเส้นลมปราณที่บริเวณหลังทั้งสองฝั่ง หรือครอบไปตามจุดกล้ามเนื้อที่ต้องการครอบเพื่อลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ประโยชน์ของการครอบแก้ว คือ
1. ลดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวด
2. เพิ่มการไหลเวียนเลือดและเส้นลมปราณ
3. กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
4. ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อและยังช่วยให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย
*ข้อควรระวังของการครอบแก้ว คือ ไม่ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม ผู้ป่วยกระดูกหัก ผู้ป่วยภาวะเส้นเลือดดำอุดตัน หรือในบริเวณที่ผิวหนังมีบาดแผล เป็นต้น